ล็อตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล เรียกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ หวย หลายคนคงเคยซื้อหวยกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แล้วรู้หรือไม่ว่าเวลาที่เราถูกหวย หรือ ถูก ล็อตเตอรี่ นั้น เราจะต้องไปขึ้นเงินที่ไหน และมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรให้ไม่เกิดผลเสียมากที่สุด

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับเจ้า ล็อตเตอรี่ กันก่อนเลยว่าเจ้าล็อตเตอรี่ใบละ 80 บาท นี้สามารถลุ้นรางวัลอะไรได้บ้าง

สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีกี่ออกรางวัลโดยแบ่งออกเป็น 9 ประเภท ที่มีเงินรางวัลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

รางวัลที่ 1 ออก 1 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลอยู่ที่ 6,000,000 บาท

รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มี 2 รางวัล โดยมีเงินรางวัลละ 100,000 บาท

รางวัลที่ 2 ออก 5 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 200,000 บาท

รางวัลที่ 3 ออก 10 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 80,000 บาท

รางวัลที่ 4 ออก 50 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 40,000 บาท

รางวัลที่ 5 ออก 100 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 20,000 บาท

รางวัลเลขหน้า 3 ตัว ออก 2 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 4,000 บาท

รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ออก 2 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 4,000 บาท

รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ออก 1 ครั้ง โดยมีเงินรางวัลละ 2,000 บาท

หมายเหตุ ทุกรางวัลสามารถไปขึ้นเงินได้ภายในระยะเวลา 2 ปี เท่านั้น นับตั้งแต่วันที่ออกรางวัล กรณีที่ไปขึ้นเงินเกิน 2 ปีไปแล้ว ทางสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำเงินที่ถูกรางวัลนี้ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินเพื่อนนำไปพัฒนาประเทศ

สถานที่รับขึ้นเงินมีหลายที่ และจะมีการคิด ค่าธรรมเนียม แตกต่างกัน ดังนี้

1.สํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ ( เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลาเปิดทำการ 08.30-15.00 น. สิ่งที่ต้องเตรียมไปได้แก่ ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัล , บัตรประชาชน , ค่าอากรแสตมป์

เงื่อนไข : กรณีที่ถูกรางวัลไม่เกิน 20,000 บาท ทางเจ้าหนี้ที่จะจ่ายเป็นเงินสด แต่ถ้าหากถูกรางวัลมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป ทางเจ้าหน้าที่จะจ่ายเป็น เช็คเงินสด ให้ไปขึ้นเงินแทน

ค่าธรรมเนียม : ทางสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะคิดค่าธรรมเนียมเป็นร้อยละ 50 สตางค์ ของมูลค่าสลาก หรือ 0.5% ของเงินรางวัล เช่น เงินรางวัล 6,000,000 จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์อยู่ที่ 30,000 บาท

2.ธนาคารกรุงไทย สามารถนำสลากไปขึ้นรางวัลได้ทุกวัน ยกเว้น รางวัลที่ 1 และต้องเป็นเฉพาะงวดปัจจุบันเท่านั้น ทางธนาคารกรุงไทยจะไม่มีการรับแลกสลากที่ถูกรางวัล (ย้อนหลัง) โดยจะรับจ่ายรางวัลตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัลไปจนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ออกรางวัลในงวดถัดไปเท่านั้น

ค่าธรรมเนียม : โดยจะคิดรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม คิด 1% ของมูลค่ารางวัล (ไม่รวมค่าอากรแสตมป์ และค่า(ธรรมเนียมการโอนเงิน โดยผู้ที่ขึ้นรางวัลจะเป็นผู้รับผิดชอบ) บวกค่าอากรแสตมป์ 0.5% ที่ธนาคารต้องนำส่งให้กับสำนักงานสลาก ฯ รวมแล้วเท่ากับ 1.50 % ของมูลเงินรางวัล

เงื่อนไขการจ่าย

-กรณียอดเงินรางวัลรวมไม่เกิน 20,000 บาท สามารถเลือกรับเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยหรือบัญชีต่างธนาคารได้เลย

-กรณียอดเงินรางวัลรวมมากกว่า 20,000 บาท สามารถเลือกโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยหรือบัญชีต่างธนาคาร (ไม่สามารถรับเป็นเงินสดได้)

3.ธนาคารออมสิน ทางธนาคารจะรับขึ้นเงินทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 และรับเฉพาะสลากงวดปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งสามารถมาขึ้นรางวัลได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันออกไปจนถึงเวลา 12.00 น. ของวันออกรางวัลในงวดถัดไปเท่านั้น โดยจะคิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 1 ของมูลค่ารางวัลแต่ละรางวัล และค่าอากรแสตมป์อยู่ที่ ร้อยละ 0.5 – 1.0 ของมูลค่ารางวัล ตามประเภทของสลาก รวมเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 1.5 – 2.0 ของมูลค่ารางวัล

4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)

สามารถขึ้นเงินรางวัลที่ ธ.ก.ส. ได้ทุกสาขา สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัลไปจนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ออกรางวัลในงวดถัดไปเท่านั้น

ธ.ก.ส.จะคิดค่าธรรมเนียมในการขึ้นเงินรางวัลในอัตรา 1%  บวกกับค่าอากรแสตมป์อีก 0.5% รวมเป็น 1.5% ของมูลค่าเงินรางวัล

5.แผงล็อตเตอรี่

สามารถขึ้นเงินได้กับแผงล็อตเตอรี่ ที่ขึ้นป้ายรับขึ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหาได้ตามทั่วไป โดยที่ แผงล็อตเตอรี่ จะคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1-3% ( โดยรวมค่าอากรแสตมป์ 0.50%) ของมูลค่าเงินรางวัล

6.ร้านทอง

การขึ้นเงินรางวัลกับทางร้านทองจะเป็นลักษณะเดียวกันกับแผงล็อตเตอรี่ โดยจะมีการคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1-3% ( โดยรวมค่าอากรแสตมป์ 0.50%) ของมูลค่าเงินรางวัล ซึ่งสามารถแลกและรับเงินสดได้ทันที

ทั้งนี้ การขึ้นรางวัล “สลากกินแบ่งรัฐบาล” หากมีจำนวนรางวัลที่ไม่มากก็เลือกสถานที่ที่ใกล้และสะดวกจะดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะต้องเจอค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าก็ตาม แต่ถ้าลองคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าเสียเวลา ก็อาจจะคุ้มค่ากว่าได้เช่นกัน

คำเตือน เมื่อซื้อ ล็อตเตอรี่ ทุกครั้ง ควรเขียนชื่อ-นามสกลุ เบอร์โทรศัพท์ พร้อมทั้งทำลายนิ้วมือโดยการจับ ตัวสลากบ่อยให้ทั่วของในสลาก ใช้เหงื่อหรือน้ำลาย ซับๆ ที่ตัวสลากเพื่อฝั่ง DNA เอาไว้ เวลาที่ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลหายหรือถูกขโมยไป จะได้ตรวจสอบได้ง่ายและไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง สุดท้ายนี้ถ้าท่านถูกรางวัลที่เป็นจำนวนเงินเยอะๆ ให้รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อความปลอดภัย เป็นอันว่าดีที่สุด